ผมตั้งใจจะเขียนภาพรวมลุ่มน้ำย่อยอ่างศรีตรัง ต่อ แต่ยังหาเวลาเหมาะๆ ไม่ได้ครับ ก็นำเสนอภาพย่อยทรัพยากรด้านประเพณีวัฒนธรรมอันดีในลุ่มน้ำฯ ก่อนที่จะผ่านพ้นเดือนแห่งเทศกาลกตัญญู
วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ (๒๐ เมษายน) เป็นวันเพ็ญฉันตื่นนอนเช้าตรู่กว่าปกติ เจ้านกน้อยส่องเสียงร้องขับขานอวดกันที่ยอดไม้ใกล้กับที่พัก แสงไฟยังสอดส่องเส้นทางสัญจร จัดเตรียมเปลสนามและสัมภาระที่จำเป็นใส่เป้ใบเก่าคู่ใจ พร้อมกับกระเป๋าลายพลางขนาดเล็กอีกหนึ่งใบ จุดมุ่งหมายคือสำนักวิปัสสนาธรรมโชติ ซึ่งตั้งอยู่บนต้นน้ำอ่างศรีตรัง ตามที่พูดคุยนัดหมายกับท่านพระยุคล ยาณวโร และน้องนักศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์เกษตร ลูกศิษย์พระอย่างหลวมๆ ไว้เมื่อเมื่อวานตอนเช้าตรู่ เตรียมกายใจซื้อสิ่งของสำหรับใส่บาตร สะพายเป้มุ่งตรงไปยังศาลาบิณฑบาตรบริเวณอ่างศรีตรัง ตั้งจิตใส่บาตร สนทนากับท่านพระยุคล จึงได้ทราบว่าวันนี้จะมีงานอาบน้ำคนแก่ที่สำนักฯ (จริงๆ ประเพณีนี้จะจัดในช่วงวันที่ ๑๓ -๑๕ เมษายนของทุกปี แต่ จะวันไหนไม่สำคัญเมื่อกายใจพร้อมก็นัดหมายได้) จิตใจรู้สึกว่าดีใจมากที่ได้ไปร่วมงานบุญแสดงความกตัญญูครั้งนี้โดยไม่ทราบ ล่วงหน้ามาก่อน ศาสนิกชนใส่บาตรทำบุญทำทานเสร็จสิ้น แบ่งข้าวปลาอาหารใส่รถยนต์ (จริงๆ แล้ววันนี้ตั้งใจจะเดินเท้าไปกับท่านฯ แต่รับทราบว่าจะต้องรีบไปเตรียมพิธีฯ) ออกเดินทางออกจาก อ่างเก็บน้ำ มอ.
แผนที่เส้นทางสู่สำนักวิปัสสนาธรรมโชติ
เจ้า
เครื่องกลเหล็กสี่ล้อยางพาผ่านทางศูนย์วิจัยยางสงขลาหรือที่เราพูดจนติดปาก
ว่า "คอหงส์" ไปบนถนนลูกรังสองข้างทางร่มรื่นไปด้วยป่ายางและสวนวนเกษตร(Agroforestry) บ้าน
และกระท่อมหลังน้อยของชุมชนต้นน้ำคอหงส์กระจายเรียงรายอยู่เป็นระยะอยู่ใน
สวน เมื่อสุดปลายทางถนนสายแคบพาหนะที่แสนดีจอดสงบนิ่ง
ทั้งพระสงฆ์และฆารวาสลงมาช่วยกันหอบหิ้วสิ่งของจากการบิณฑบาตร
เดินลัดเลาะตามเส้นทางเดินเท้าเล็กๆ ผ่านสะพานข้ามลำน้ำเล็กๆ
ที่มีน้ำใสเย็นไหลรินหล่อเลี้ยงตลอดทั้งปี
ขึ้นบันไดหินที่จัดเรียงสู่ศาลาธรรมกลางผืนป่า
ชั้นล่างลูกหลานหลายคนกำลังสาละวนเร่งจัดเตรียมสำรับอาหาร
ผมจัดวางสิ่งของแล้วยกมือไว้ทักทายคนที่ไม่เคยรู้จักหน้าตาแต่มีจิตใจตรงกัน
ต่างคนต่างยิ้มให้กัน พูดจาตอบเสมือนกับเป็นลูกหลานคนสนิทใกล้ชิดกัน
สภาพชุมชนต้นน้ำคอหงส์
สภาพแวดล้อมสำนักวิปัสสนาฯ ทางคนทางน้ำ
ขอ
เดินสำรวจสภาพแวดล้อมใหม่โดยรอบบริเวณสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้
ฝูงไก่แจ้คุ้ยเขี่ยใบไม้ที่ร่วงหล่นทับถมกันจนเน่าเปื่อยหาสัตว์เล็กที่
อาศัยอยู่เป็นอาหารให้ลูกน้อยจิกกิน เป็นห่วงโซ่อาหาร
สัตว์ป่าหลากหลายชนิดประสานเสียงร้องกล่อมไพร
เคลื่อนไหวอย่างอิสระบนยอดไทรใหญ่
องค์ประกอบแวดล้อมโดยรวมของสำนักฯ
พระ
ฉันท์เช้าเสร็จ เป็นสัญญาณที่เด็กวัดเก่าจำได้ดี
มานั่งล้อมวงกินข้าวก้นบาตรกันจนอิ่มท้อง น้องๆ
นักศึกษาที่ทำค่ายยุวศิลป์และนักเรียน มอ.วิทยานุสรณ์
กลุ่มหนึ่งเดินทางมาถึง มิรอช้าช่วยกันจัดดอกไม้ประกอบพิธี
พระสงฆ์จากวัดอื่นและผู้ถือศิลเดินทางมาถึง ลูกหลาน ญาติ
และผู้นับถือเริ่มทยอยมาเพิ่ม
ใกล้เวลาช่วยกันจัดเตรียมอย่างเพรียบพร้อมทุกอย่าง
จากหลายมือหลายดวงใจรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
ระหว่างรอเวลาท่านสนทนาแนวคิดในการพัฒนากับผมไปพลางๆ
เสียงดังขึ้นจากเครื่องเสียงให้ทุกคนมานั่งรวมกันที่ศาลาธรรมจนเนิงแน่น
ล้นลามขยายสู่ลานธรรมบนผืนทรายใต้ร่มไม้ใหญ่
พิธีกรรมเริ่มขึ้นเชิญคุณยายเขื่อนจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย คุณลุงนำสวด
พระท่านสวดประพรหมน้ำมนต์จนชื่นใจ คุณยายและลูกหลานถวายเครื่องสังฆภัณฑ์
ร่วมกันกรวดน้ำ ช่วยลำเลียงและประเคนอาหารเที่ยง พระสงฆ์ สามเณร และแม่ชี
ฉันท์เที่ยง
ทยอยกันเดินลงมารวมกลุ่มที่ลานธรรมพูดคุยถามไถ่ทุกข์สุขด้วยความห่วงใย
จนพระฉันท์เที่ยงเสร็จสิ้นเสียงสวดมนต์ทุกคนกลับมาบนศาลาอีกครั้ง
นั่งล้อมวงทานอาหารเที่ยงพร้อมพูดคุยซักถามกันอิ่มทั้งกายและใจ
ช่วยกันเก็บปัดกวาด จนสะอาดเรียบร้อย
ช่วยกันจัดเตรียม
พิธีกรรมภาคเช้า
ถวายอาหารเที่ยง
พิธีกรรม
เริ่มต่อ
คุณยายเขื่อนและยายอนงค์ออกมานั่งด้านหน้าตัวแทนลูกหลานนำดอกไม้ธูปเทียน
คุณลงทำหน้าที่อีกครั้งนำกล่าวขอขมา ทุกคนพนมมือกล่าวตาม "กายกรรม
สาม วจีกรรมสี่ มโนกรรมสาม หากข้าพเจ้าทั้งหลายเกิดประมาทพลาดพลั้งแก่ท่าน
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ไม่เจตนาก็ดี
ขอให้ท่านอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
และขอได้โปรดอำนวยพรให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย มีความสุขความเจริญตลอดไป
และขอตั้งจิตอธิษฐานขอให้ท่านเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ตลอดไป"
จนเสร็จสิ้น
ลุกขึ้นทยอยเดินลงมายังลานผืนทรายคุณยายทั้งสองมานั่งที่เก้าอี้ที่จัด
เตรียมไว้ลูกหลานทำพิธีอาบน้ำ เริ่มการรดน้ำด้วยพระยุคลตามแถวด้วยลูกหลาน
และญาติๆ ที่นับถือใช้ขันใบน้อยบรรจงตักน้ำและดอกไม้จากขันใบใหญ่
ยกขึ้นเหนือศรีษะแล้วค่อยรดน้ำรินไหลจากสองมือผู้เยาว์วัยสู่สองมืออันโอบ
อ้อม ทุกคนรดน้ำพร้อมกล่าวคำอวยพรแด่คุณยายแตกต่างกันคุณยายให้พรตอบ
ถึงเวลาอาบน้ำจริงตัวแทนลูกหลานตักน้ำมาอาบพอเป็นพิธี เพื่อรักษาสุขภาพ
ท่านผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ที่ลูกหลานซื้อเตรียมมาให้พร้อมแป้งหอม
พิธีกรรมภาคบ่าย การขอขมาและการอาบน้ำคนแก่
วันนี้
ช่างมีความสุขและรู้สึกดีมาก ๆ กับประเพณีไทยชาวแดนสะตอ
เป็นการแสดงถึงความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้มีพระคุณ
ยังสร้างความรักใคร่กลมเกลียวเป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้นของวงศ์ตระกูลและสังคมไทย
เป็นภูมิปัญญาไทยร้อยดวงใจที่แสนแยบยล จริงๆ ครับ
0 comments:
Post a Comment